ผู้จัดทำมีความเห็นว่าเพื่อลดการใช้จ่ายและเพื่อสุขภาพน่าจะมีการนำสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรคนิ่วถึงแม้ว่าโรคนิ่วอาจจะดูไม่ร้ายแรงนักแต่ก็พรากชีวิตคนไทยมาแล้ว ฉะนั้นผู้จัดทำจึงทำการศึกษาเรื่อง พืชสมุนไพรที่ใชัรักษาโรคนิ่วเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่จะศึกษาสืบไป
โครงงาน เรื่อง พืชสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคนิ่ว
ผู้จัดทำ : 1.นางสาวณัฐวดี จันเก
2.นางสาวเบญจมาศ วงษ์ลคร
2.นางสาวเบญจมาศ วงษ์ลคร
ปีการศึกษา 2557
คุณครูที่ปรึกษา คุณครู พิสิษฐ์ วัฒนาไชย
ที่มาและความสำคัญ
ในปัจจุบันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายภาพและเทคโนโลยี
ซึ่งปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าแล้วมนุษย์จึงดูแลตัวเอง คนใกล้ชิดน้อยลง และตามใจปากมากจนเคยตัว
จึงมองข้ามจุดเล็กๆจุดนี้ไปซึ่งจุดเล็กๆจุดนี้คือ
ความปลอดภัยในการบริโภคอาหาร และน้ำดื่ม
เพราะเพียงเศษฝุ่นเล็กๆที่เรามองไม่เห็นเพียงแต่สัมผัสได้นี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของเราได้ เศษฝุ่นเล็กๆจากน้ำที่เราดื่มเข้าไป หรืออาจอยู่ในอาหารที่วางไว้พื้นนี้เมื่อเรากินเป็นเวลานานฝุ่นที่เรากินเข้าไปจะเกิดการสะสมในร่างกายเราอาจจะทำให้เราเป็นโรคนิ่วได้
สำหรับการเกิดโรคนิ่วนั้นมีอยู่หลายประการด้วยกันทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม
เมตาบอลิซึม พันธุกรรม วิถีการดำเนินชีวิต และอุปนิสัยการกินอาหารของแต่ละคน
การมีนิ่วจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ การทำงานของไตเสื่อมลง และอาจร้ายแรงจนเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง
และโรคไตระยะสุดท้าย ซึ่งทำให้ถึงแก่ความตายได้
และนิ่วส่วนใหญ่ที่พบในประเทศไทย
จะเป็นนิ่วเนื้อผสม ซึ่งเราสามารถแบ่งชนิดนิ่วได้จากองค์ประกอบหลักที่สำคัญในก้อนนิ่ว
ได้แก่ นิ่วแคลเซียมออกซาเลต นิ่วแคลเซียมฟอสเฟต นิ่วยูเรตหรือนิ่วกรดยูริก
นิ่วสตูไวท์หรือนิ่วติดเชื้อ นิ่วซีสทีน และนิ่วชนิดอื่น
ๆการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดโรคนิ่วเป็นสิ่งสำคัญมากทำได้โดยการดื่มน้ำมากกว่าวันละ
8 แก้ว หรือให้ได้ปริมาตรของปัสสาวะมากกว่า 2 ลิตรต่อวัน
เพื่อลดความอิ่มตัวของสารก่อนิ่วในปัสสาวะและลดโอกาสการก่อผลึกนิ่วในระบบ
ทางเดินปัสสาวะ
บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วนและสัดส่วนที่เหมาะสม
ให้ลดอาหารที่มีเนื้อสัตว์ ไขมันสัตว์ อาหารหวานมาก-เค็มมาก
และอาหารที่มีกรดยูริกสูง ได้แก่ หนังสัตว์ปีก ตับ ไต ปลาซาร์ดีน
เป็นต้นหลีกเลี่ยงอาหารที่มีออกซาเลตสูง เช่น งา ผักโขม ช็อกโกแลต สตรอเบอรี่ ชา ถั่ว แอปเปิ้ล หน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลี ชีส เบียร์ น้ำอัดลม กาแฟ
โกโก้ ไอศกรีม นม ส้ม สับปะรด วิตามินซี โยเกิร์ต ฯลฯและ
ผู้ที่มีนิ่วควรรับประทานอาหารที่มีใยมาก
ออกกำลังกายสม่ำเสมอนอกจากนี้แล้วผู้จัดทำยังมีความคิดที่จะนำสมุนไพรบางชนิดมาช่วยในการรักษาโรคนิ่ว ซึ่งสมุนไพรแต่ละตัวก็จะมีลักษณะที่ต่างกันแต่ก็รักษาโรคนิ่วได้เหมือนๆกัน
นอกจากสมุนไพรจะเยียวยานิ่วแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์อีกด้วยจากการศึกษาเรื่องนิ่วผู้จัดทำมีความเห็นว่าเพื่อลดการใช้จ่ายและเพื่อสุขภาพน่าจะมีการนำสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรคนิ่วถึงแม้ว่าโรคนิ่วอาจจะดูไม่ร้ายแรงนักแต่ก็พรากชีวิตคนไทยมาแล้ว ฉะนั้นผู้จัดทำจึงทำการศึกษาเรื่อง พืชสมุนไพรที่ใชัรักษาโรคนิ่วเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่จะศึกษาสืบไป